มาทำความรู้จักกับ 2 วิธีออกแรงที่ช่วยลดอ้วนอย่างสำเร็จ!
1. คาร์ดิโอหรือแอโรบิก
เป็นการออกกำลังกายที่ต้องใช้ออกซิเจน จึงมีความสัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจ เช่น การเดินเร็ว เต้นแอโรบิก ปั่นจักยานและว่ายน้ำ แนะนำให้ออกกำลังกายประเภทนี้อย่างน้อยวันละ 30 นาทีสัปดาห์ละ 5 วัน หากไม่เคยเล่นมาก่อน ให้เริ่มจากวันละ 15 นาทีแล้วค่อยเพิ่มเวลาในวันต่อๆ มา
2. การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน (Resistant Exercise)
เช่น ยกน้ำหนัก นอกจากนี้ยังรวมถึงประเภทที่ต้องฝึกหายใจและใช้สมาธิ เช่น โยคะ พิลาทีสและไทเก๊ก
การยกน้ำหนักช่วยให้กล้ามเนื้อดึงน้ำตาลและไขมันมาใช้เป็นพลังงานขณะยกลูกน้ำหนัก
การฝึกโยคะและพิลาทีสก็ต้องใช้พลังงานในการฝึกท่าต่างๆ และควรเสริมท่าโยคะที่ช่วยบริหารไตและตับอ่อน รวมถึงท่าที่กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ได้แก่ ท่าตั๊กแตน ท่าสามเหลี่ยม ท่าบิดตัวและท่ายืนด้วยไหล่
แนะนำให้ฝึกออกกำลังกายประเภทไทเก๊กครั้งละ 2 ชั่วโมงจะส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
ส่วนการออกกำลังกายจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลา ความหนัก ระดับน้ำตาลก่อนออกกำลังกาย
คำแนะนำเพิ่มเติมคือ หากออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอร่วมกับการใช้แรงต้าน จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ดีกว่าการออกกำลังประเภทใดประเภทเดียว
ข้อควรระวัง!
ในตอนแรกไม่สมควรบริหารร่างกายด้วยความแรง เนื่องจากว่าจะมีผลให้ฮอร์โมนแคคราววัวลามีน หลั่งออกมา ซึ่งจะมีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มบริหารร่างกายด้วยความแรงจากน้อยไปพบมากมาย
Post a Comment: